ปัจจุบันมีผู้ป่วยบางกลุ่มมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเลือด เลือดไม่ดีบ้าง เลือดน้อยบ้าง และกำลังหาวิธีบำรุงว่าจะทำยังไงให้เลือดมีความสมบูรณ์ตามเกณฑ์ปกติ เดี๋ยววันนี้มาทำเข้าใจกัน
เลือดหรือโลหิต คือ สารเหลวที่ไหลเวียนไปตามอวัยวะทั่วร่างกายผ่านทางเส้นเลือดต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย
- เซลล์เม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย
- เซลล์เม็ดเลือดขาว สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านทาน และกำจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
- เกล็ดเลือด ช่วยให้เลือดแข็งตัวเมื่อมีบาดแผล ป้องกันภาวะมีเลือดออก
- น้ำเลือด มีหน้าที่ขนส่งสารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
หากการทำงานของระบบเลือดผิดปกติ ย่อมส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ ดังนั้น อาหารบำรุงเลือดจึงช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายที่ดีได้ด้วยเช่นกัน และเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
อาหารบำรุงเลือดประเภทใดบ้าง
ที่อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพเลือดได้ ?
อาหารบำรุงเลือดที่อาจช่วยกระตุ้นดูแลระบบเลือด
เนื้อปลา เนื้อปลาเป็นแหล่งอาหารที่มีโปรตีนสูงแต่ให้แคลอรี่ต่ำ และอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่พบได้ในไขมันปลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลาแซลมอน ทูน่า ซาร์ดีน แมกเคอเรล งานค้นคว้าส่วนใหญ่สนับสนุนแนวคิดที่ว่า ควรบริโภคปลาในมื้ออาหารอย่างน้อย 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้ได้รับสารโอเมก้า-3 ในปริมาณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ธัญพืช ธัญพืชเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งโปรตีน เส้นใยอาหาร วิตามินบี สารต้านอนุมูลอิสระ ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง และแมกนีเซียม โดยสามารถรับประทานธัญพืชได้อย่างหลากหลาย เช่น ขนมปังธัญพืช ถั่ว งา เมล็ดธัญพืชต่าง ๆ จมูกข้าว ข้าวกล้อง ข้าวฟ่าง เป็นต้น
ผักและผลไม้ พืช ผัก ผลไม้ เป็นแหล่งอาหารที่มีเส้นใยสูง อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระอย่างบีตาแคโรทีน การบริโภคผักและผลไม้หลากหลายชนิด จึงเป็นการบำรุงส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพดี ซึ่งสามารถรับประทานได้ในรูปแบบผักสด นำไปประกอบอาหาร ผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง ผลไม้อบแห้ง ผลไม้แปรรูป และน้ำผักผลไม้ เป็นต้น
ผักผลไม้กับการบำรุงเลือด
มีงานทดลองที่ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคผักผลไม้ที่มีสารแคโรทีนสูงกับการลดปริมาณของ Plasma C-reactive ซึ่งเป็นโปรตีนในเลือดที่ทำปฏิกิริยาตอบสนองต่อกระบวนการอักเสบของร่างกาย ในกลุ่มตัวอย่างเพศชายผู้มีสุขภาพดีและไม่สูบบุหรี่ พบว่าการบริโภคผักและผลไม้ที่มีสารแคโรทีนจะมีสัญญาณการอักเสบและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันลดลง
อย่างไรก็ดี นักวิจัยยังคงคาดว่าการบริโภคผักผลไม้ทั่วไปในปริมาณมาก อาจช่วยลดกระบวนการอักเสบได้ด้วยการลดปริมาณของโปรตีนในเลือดที่ตอบสนองต่อกระบวนการอักเสบของร่างกาย
นมแพะและนมวัว
นมแพะกับนมวัวเป็นอาหารที่มีโภชนาการสูง มีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่คล้ายคลึงกัน โดยนมแพะจะมีแคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบี 6 ไนอะซิน โพแทสเซียม ทองแดง และสารต้านอนุมูลอิสระซีลีเนียมมากกว่านมวัวเล็กน้อย ในขณะที่นมวัวจะมีปริมาณวิตามินบี 12 และกรดโฟลิกสูงกว่านมแพะมาก
นอกจากอาหารบำรุงเลือด เราสามารถดูแลรักษาระบบเลือดให้มีสุขภาพดีได้อย่างไร ?
- ตรวจเลือด การตรวจเลือดใช้เวลาเพียงไม่นาน แพทย์จะใช้เข็มเจาะเก็บตัวอย่างเลือดไปส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ บุคคลทั่วไปแม้ไม่ใช่ผู้ป่วยก็สามารถตรวจเลือดได้ เพื่อตรวจสุขภาพร่างกายในปัจจุบัน ตรวจหาการติดเชื้อหรือสัญญาณการเจ็บป่วย ตรวจการทำงานของอวัยวะภายในระบบต่าง ๆ หรือตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม เป็นต้น
- ดูแลสุขภาพร่างกาย และหมั่นสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณของการป่วย รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดอาการป่วยหรือโรคภัยต่าง ๆ ด้วยการรับประทานอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ มีประโยชน์ทางโภชนาการในปริมาณที่เหมาะสม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รู้จักบริหารจัดการและผ่อนคลายความเครียด หลีกเลี่ยงการบริโภคสิ่งที่ไม่มีประโยชน์และอาจก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย ตรวจสุขภาพประจำปี และที่สำคัญ คือ หมั่นสังเกตสุขภาพร่างกายของตนเองอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการป่วยใด ควรปรึกษาหรือไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา
- ป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคโลหิตจาง ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพราะธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง และช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในช่วงที่เสียเลือด เช่น ช่วงมีประจำเดือน ช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัด เป็นต้น หากขาดธาตุเหล็กจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงเป็นโลหิตจาง โดยอาหารที่ควรรับประทานเพื่อช่วยป้องกันโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อไก่ ตับ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ฟักทอง งา ซีเรียล เป็นต้น
เลือดมีความสำคัญกับร่างกายเรามาก เราจึงควรหมั่นใส่ใจสุขภาพ
เพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดีให้ใช้งานจนถึงวัยชราต่อไป
อ้างอิงจาก:https://www.pobpad.com